“1 ชั่วโมงหลังเลิกงาน” สามารถชี้วัดความสำเร็จของคุณได้

11699

ช่วงเย็นของทุกวันหลังจากการทำงานเหน็ดเหนื่อยมาเป็นเวลานาน คุณมักจะรู้สึกราวกับว่าได้ใช้พลังงานร่ายกายวันนี้ไปจนหมดเกลี้ยง และทุกครั้ง คุณก็จะทานอาหารง่ายๆ หน้าทีวี ใช้เวลา 1-2 ชั่วโมงไปกับการนั่งดูรายการอะไรก็ตามที่ทำให้สมองไม่ต้องคิดเรื่องงาน

ฟังดูน่าเบื่อใช่ไหมล่ะ? แต่อย่าคิดมากเลย คุณไม่จำเป็นต้องจมอยู่กับกิจกรรมหลังเลิกงานน่าเบื่อๆ อย่างการดูทีวี 2 ชั่วโมงติด หรือเช็คเฟซบุ๊ค อินสตาแกรมจนเผลอหลับ เพราะจริงๆ แล้วมีสิ่งที่สร้างสรรค์ตั้งมากมายที่คุณทำได้หลังเลิกงาน แถมยังทำให้การงานและชีวิตส่วนตัวดีขึ้นอีกด้วย

ข้อดีของการใช้เวลาหลังเลิกงานให้คุ้มค่า

ข้อแรก: หากคุณแบ่งเวลาซักหนึ่งชั่วโมงหลังเลิกงานมาทำกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น การเรียนภาษาใหม่ หรือแม้แต่ต่อโมเดลรถ ก็สามารถเติมเต็มจิตใจและมีความสุขขึ้นได้แล้ว ที่สำคัญคือ คุณจะกลับไปทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย พนักงานที่มีความสุขจะทำงานได้ดี ซึ่งแน่นอนว่านายจ้างเองก็จะเห็นพัฒนาการของคุณ

ข้อสอง: คุณไม่สามารถใช้เวลางานมาศึกษาความรู้ใหม่ๆ หรือทำงานอดิเรกได้ตลอด ไม่เพียงแค่ถูกรบกวนจากงาน คุณยังอาจทำทั้งกิจกรรมเหล่านั้นได้ไม่ดีและดูเป็นคนขี้เกียจทำงานอีกด้วย ในขณะที่หลังเลิกงาน คุณได้เป็นเจ้านายตัวเอง จะแบ่งเวลาอย่างไรหรือทำอะไรก็ได้เต็มที่ตามต้องการ จึงเหมาะเจาะที่สุดที่คุณควรใช้เวลาสักชั่วโมงเพื่อทำตามเป้าหมายของตัวเอง

ข้อสาม: หนึ่งชั่วโมงต่อวันสามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้มหาศาลในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเอาเวลานั้นไปเรียนรู้ภาษาอื่น เมื่อผ่านไปหนึ่งปี คุณก็ได้สะสมเวลาฝึกฝนมากพอจนอาจใช้ภาษานั้นได้คล่องเลยภายในปีเดียว นั่นแปลว่าคุณสามารถเรียนภาษาใหม่ๆ ได้ทุกปีเลยนะ!

ข้อสุดท้าย: การใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงทุกๆ วันอาจทำให้คุณได้งานใหม่หรือถูกเลื่อนขั้นได้เลย ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเรียนภาษาญี่ปุ่นจนใช้ได้ค่อนข้างคล่องแล้ว คุณก็สามารถระบุลงในใบสมัครงานได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากหากคุณเจอบริษัทที่กำลังมองหาคนที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้

ความเฉื่อยชาเป็นปัญหาอย่างไร?

ความเฉื่อยชานี่แหละคือตัวปัญหา คนที่ทำตัวเฉื่อยชากับชีวิตไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตตัวเองได้ ไม่มีความก้าวหน้า ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีอนาคตที่ดีกว่าปัจจุบัน สำหรับบางคนการอยู่เฉยๆ อาจไม่ส่งผลอะไรเพราะพวกเขาพอใจกับชีวิต แต่หากคุณมีเป้าหมาย คุณคงไม่ปล่อยตัวเองไปกับกิจวัตรประจำวันที่ไร้ซึ่งประโยชน์ใดๆ เป็นแน่

อีกปัญหาหนึ่งคือ กิจวัตรเฉื่อยแฉะที่ทำเป็นประจำจนยากจะแก้ไขอาจส่งผลเสียต่อจิตใจถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าได้เลย ซึ่งไม่เพียงแต่ทำร้ายตัวคุณเองแต่ยังไปลดประสิทธิภาพในการทำงานจนหน้าที่การงานตกต่ำลงด้วย

นี่คือตัวอย่างการใช้ประโยชน์ใน เวลาหลังเลิกงาน

1. การอ่าน ถูกต้องแล้ว คุณจะอ่านอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย สารคดี แฟนตาซีไปจนถึงอัตชีวประวัติ หรือจะเป็นแนวรักโรแมนติค ไม่ก็สยองขวัญ การอ่านหนึ่งชั่วโมงต่อวันทำให้คุณอ่านได้สัปดาห์ละหนึ่งเล่มเต็มๆ ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งได้ความรู้มาก การอ่านช่วยเติมเต็มความหมายให้ชีวิตได้ ทำให้หาเรื่องคุยกับคนอื่นได้หลากหลายขึ้น แถมยังนำความรู้ที่ได้มาใช้กับการทำงานจริงๆ ได้ด้วย

2. เริ่มทำโปรเจ็คของตัวเอง ข้อนี้จะยิ่งเกิดประโยชน์มากขึ้นถ้าคุณไม่มีโปรเจ็คที่ต้องทำจากออฟฟิศอยู่แล้ว การทำโปรเจ็คอย่าง การสร้างเว็บไซต์ หรืองานอาสาสมัคร จะทำให้คุณมีแนวคิดที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องความสำคัญของการทำงานเป็นทีม การทำงานส่งตรงเวลา และการตอบรับต่อคำวิจารณ์ในการทำงาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นลักษณะสำคัญของการประสบความสำเร็จในทุกสาขาอาชีพ

3. สานสัมพันธ์กับผู้คน เป็นสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วว่าความสัมพันธ์ส่งผลดีเป็นอย่างมากต่อทั้งความก้าวหน้าทางอาชีพและชีวิตส่วนตัว สิ่งที่คุณต้องทำมีเพียงการออกไปพบปะผู้คน หรือจะชวนเพื่อนร่วมงานไปสังสรรค์กันหลังเลิกงานก็ย่อมได้

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของสิ่งที่คุณอาจทำได้ จำไว้ว่าคุณต้องคิดนอกกรอบและก้าวเดินตามความฝันของตัวเอง!

“จงใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงหลังเลิกงานให้คุ้มค่า แล้วมันจะเปลี่ยนโลกของคุณไปทั้งใบไปเลย”

 

Source: Life hack