6 วิธี เพิ่มประสิทธิภาพและสมาธิในการทำงาน

23786

ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องของการสื่อสารและการเก็บข้อมูลของมนุษย์มากขึ้น และได้ทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก เทคโนโลยีขั้นสูงก็กำลังจะเข้ามาแทนที่แรงงานทั่วไปอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ทางเลือกใหม่ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการทำงานและวิเคราะห์ข้อมูลนั้น ได้กลายเป็นสิ่งที่บริษัทส่วนใหญ่เริ่มจับตามอง ดังนั้นจึงตกเป็นหน้าที่ของมนุษย์อย่างเราที่จะต้องพิสูจน์ตนเองว่าเราอยู่เหนือกว่าเครื่องจักร

ความสามารถไม่ใช่ปัจจัยหลักอีกต่อไปแล้ว ผู้ประกอบอาชีพไม่เพียงแค่ต้องมีความสามารถในการทำงานเท่านั้น แต่จะต้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความถูกต้อง และมีความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย

การจะทำงานได้อย่างมีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอนั้น จะต้องมีสมาธิจดจ่อกับการทำงานพอสมควร ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องหาวิธีดีๆ ที่สามารถช่วยพัฒนาเราให้มีทั้งสมาธิเพื่อสร้างสรรงานที่มีคุณภาพออกมาให้ได้ และนี่ก็คือ 6 วิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสมาธิในการทำงานให้กับคุณ

1. กำหนดเป้าหมายและเรียงลำดับความสำคัญ

ทำงาน

สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การนึกถึงภาพของสิ่งที่เราอยากประสบความสำเร็จไว้ในหัว การที่คุณเข้าใจเหตุผลของงานที่ทำและการกำหนดสิ่งที่คุณคาดหวังไว้ จะทำให้คุณมองภาพในมุมมองกว้างๆ ของงานได้ชัดขึ้น นอกจากนี้การเขียนวัตถุประสงค์และวิธีการที่จะสามารถไปถึงเป้าหมายนั้นได้ ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน

2. ค่อยๆ ทำอย่างรอบคอบ

หากคุณค่อยๆ ทำงานอย่างรอบคอบและตั้งใจ มันจะทำให้คุณจดจ่อกับงานได้ดียิ่งขึ้น  เมื่อพูดถึงการทำงานที่ต้องใช้ความตั้งใจแล้ว การทำงานอย่างมีวินัยและความละเอียดรอบคอบนี่แหละ ที่เป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มสมาธิในการทำงานได้อย่างดี

3. หยุดมองด้านลบ

ความคิดด้านลบเป็นสิ่งที่จะทำลายความคิดด้านอื่นๆ ไปเสียหมด เพราะความคิดเหล่านี้เป็นความคิดที่ไปกระตุ้นให้สมองเกิดความเครียดและความกังวลได้ และหากตอนนี้คุณกำลังรู้สึกเช่นนั้นอยู่ล่ะก็ มันจะส่งผลให้ความสามารถในการคิดของคุณลดลงด้วย

วิธีแก้ไข สามารถทำได้โดยการนึกถึงแต่เรื่องดีๆ เรื่องที่มีคุณค่าสำหรับคุณ นอกจากนี้การตั้งสติและการปล่อยวางเรื่องแย่ๆ ทิ้งไป ก็เป็นการช่วยทำให้ความคิดร้ายๆ เหล่านี้ออกไปได้เช่นกัน และทำให้สมองของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

4. ฝึกสมาธิ

ออกกำลังกาย

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีจิตใจจดใจจ่อกับอะไรบางอย่าง แสดงว่าช่วงเวลานั้นคุณมีสมาธิ แต่ตระหนักไว้เสมอว่า สมองของมนุษย์นั้นมี”สมาธิ”จำกัด หากคุณไม่ได้ใช้สมาธิเต็มที่กับงานงานหนึง ผลของงานก็อาจออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นหากจะทำงานสักงานหนึ่งให้ดี คุณก็ควรหยุดทำอย่างอื่นไปก่อน เพื่อไม่ให้วอกแวกกับงานที่ทำ

อย่างเช่น หากคุณเอาแต่ตอบอีเมลหรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานไปด้วยระหว่างทำงาน สิ่งเหล่านี้แหละที่เป็นเหตุทำให้คุณเสียสมาธิ และส่งผลเสียกับประสิทธิภาพของงาน ดังนั้นคุณจึงควรหยุดสิ่งเหล่านี้ไว้ก่อน แล้วตั้งใจทำงานสักอย่างหนึ่งให้เต็มที่

5. เผชิญหน้ากับการผลัดวันประกันพรุ่ง

นักวิจัยระบุว่า ผู้ใหญ่ร้อยละ 15 มักเป็นโรคผลัดวันประกันพรุ่งเรื้อรัง การผลัดวันประกันพรุ่งเราอาจมองเป็นเรื่องปกติทั่วไป แต่มันก็เป็นปัญหาที่รุนแรงได้เช่นกัน เนื่องจากงานที่ค้างอยู่จะทำให้เกิดความเครียดสะสมและความกดดันขึ้น ส่งผลต่อความสามารถในการใช้สมาธิทำงาน นอกจากนี้ การที่งานไม่สามารถทำเสร็จได้จะนำไปสู่ความเคยตัวและลดความเชื่อมั่นในตัวเองลงได้

ดังนั้น วิธีที่สามารถช่วยเราได้ก็คือ การกำหนดเวลาทำงานให้ชัดเจน การวางแผนไว้ล่วงหน้า และการทำงานแบบสม่ำเสมอค่อยเป็นค่อยไป

6. นึกถึงสิ่งที่จะได้รับเมื่องานสำเร็จ

เมื่อคุณรู้ว่าคุณคาดหวังอะไรจากงานนั้น มันจะช่วยให้คุณสามารถตั้งใจลงมือทำงานนั้นได้อย่างจริงจัง และสามารถปรับตัวเพื่อให้งานนั้นออกมาดีตามที่คิดไว้

ในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงและแรงงานทั่วไปกำลังจะถูกเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ คนที่สามารถตั้งใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสม่ำเสมอและมีสมาธิจดจ่อกับงานที่ทำนั้น ไม่ว่าองค์กรจะก้าวไปในทิศทางใดก็ตาม เขาก็จะสามารถก้าวนำการเปลี่ยนแปลงต่างๆ นั้นได้เสมอ

 

Source : Entrepreneur